หนุ่มถูกพ่อถอดรองเท้าตบหน้า ฉุนปมจะหย่ากับเมียเก่า แจงคบหญิงใหม่ไม่ใช่นอกใจ

          หนุ่มถูกพ่อถอดรองเท้าตบหน้า ฉุนปมจะหย่ากับเมียเก่าไปอยู่กับหญิงใหม่ เจ้าตัวแจงอีกมุม ย้ำไม่ใช่การนอกใจหรือคบซ้อน


          จากข่าว เมียหลวงร้องทุกข์ ถูกสามีนอกใจไปอยู่กับเมียน้อย แถมยังโดนกดดันสารพัดให้เซ็นใบหย่า จนพ่อฝ่ายชายรู้เรื่องจึงเดินทางมาห้ามถึงอำเภอ พยายามเกลี้ยกล่อมให้ลูกชายกลับไปอยู่กับเมีย แต่ฝ่ายชายยืนยันว่า ไม่กลับ จะหย่าเมียให้ได้ จนเกิดการโต้เถียงกันเกิดขึ้นที่หน้าอำเภอ ในที่สุดพ่อสามีทนไม่ไหว ถอดรองเท้าแตะตบลูกชายทั้งน้ำตา ด้วยความโมโหหลายครั้ง ทำให้สุดท้ายไม่ได้หย่านั้น

          วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 รายงานว่า นายสมสวรรค์ อายุ 59 ปี เปิดใจถึงสาเหตุที่ถอดรองเท้าตบลูกชาย เพราะโมโหที่พูดแล้วไม่ฟัง ตนขอร้องให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น แล้วกลับมาอยู่กับลูกเมีย ทุกคนก็พร้อมให้อภัย แต่ลูกชายบอกว่า ไม่กลับ ตนเสียใจที่ลูกชายคิดผิดไปคบกับผู้หญิงอื่น อยากฝากถึงลูกชาย ให้กลับตัวมาอยู่กับลูกเมียจะดีกว่า ที่ผ่านมาอยากมีลูกเมีย ก็ปล่อยให้มี ลูกอยากมีลูกผู้หญิง ก็ได้ลูกผู้หญิงตอนนี้อายุ 3 เดือน แต่ก็ยังไม่พอไปมีผู้หญิงอื่นอีก



          ด้าน น.ส.ชฎาพร เมียหลวง กล่าวว่า เธอถูกเมียน้อยบังคับให้หย่ากับสามี แต่เธอไม่หย่า ถ้าอยากให้หย่าก็ฟ้องมา ยืนยันจะใช้สิทธิ์เต็มที่ เพราะเธอไม่ได้เป็นคนผิด ก่อนหน้านี้ สามีรู้จักกับผู้หญิงอีกคนมา 3 ปี แอบคบกันแบบไป ๆ มา ๆ แล้วฝ่ายหญิงก็พยายามแสดงตัว ขณะที่ตนอยู่กินกับสามีมาเป็น 10 ปี มีลูก 3 คน ลูกชายคนโต 12 ขวบ ลูกชายคนรองอายุ 5 ขวบ ส่วนคนเล็กเป็นลูกสาวอายุ 3 เดือน ฝากถึงผู้หญิงคนนั้น ถ้าคิดว่าทำถูกก็ฟ้องมา เธอไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ส่วนลูก 3 คน พ่อและแม่ของสามีนั้นช่วยเลี้ยงดูเต็มที่

          ล่าสุด (8 พฤษภาคม) โหนกระแส รายงานว่า ชายที่ถูกพ่อใช้รองเท้าตบหน้า เผยว่า หลังออกจากบ้านภรรยา ตนย้ายไปอยู่ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี รับจ้างทั่วไป ไม่มีรายได้แน่นอน และยกทรัพย์สินทั้งหมดให้ภรรยาเก่าไปแล้ว โดยไม่ได้คาดหวังอะไร เพียงอยากใช้ชีวิตใหม่กับหญิงคนใหม่ซึ่งมีลูกสาววัย 8 เดือนด้วยกัน โดยฝ่ายหญิงใหม่ให้แม่เป็นคนเลี้ยงลูกแทน


          จุดแตกหักเกิดจากการที่ภรรยาเก่าพาแม่และพ่อมาต่อว่าให้กลับไปอยู่ด้วย และยื่นข้อเสนอให้หย่า หากไม่เลือกครอบครัวเดิม ตนจึงตัดสินใจไปตามนัดเพื่อจะหย่า แต่พ่อแม่ไม่ยอมฟังเหตุผล จึงไม่สามารถจบเรื่องได้ในวันนั้น ยอมรับว่าเคยมีปากเสียงกับภรรยาเก่าเรื่องงานและทรัพย์สิน แต่ปัจจุบันไม่มีรายได้เพียงพอจะจ่ายค่าเลี้ยงดูตามที่อีกฝ่ายเรียกร้องคือเดือนละ 30,000 บาท เพราะตอนนี้หาเงินได้เพียงวันละ 300 บาท

          ส่วนภาพที่พ่อตบหน้านั้น ตนไม่ได้โกรธ แต่รู้สึกเสียใจที่พ่อแม่เลือกเชื่อภรรยาเก่า โดยไม่ฟังเรื่องจากฝั่งของตน และยังเผยว่า ความสัมพันธ์กับหญิงคนใหม่เกิดจากความสบายใจ ไม่ใช่การนอกใจ หรือรักซ้อน
          ขณะที่ หญิงคนรักใหม่ ชี้แจงว่า ฝ่ายชายอยู่กินกับตนก่อนจะไปจดทะเบียนสมรสกับภรรยาเก่า ซึ่งจดกันในเดือนกันยายน ส่วนเธอตั้งครรภ์ในเดือนธันวาคม ห่างกัน 3 เดือน และการจดทะเบียนก็เพราะครอบครัวภรรยาเก่าเกรงว่าทรัพย์สินจะถูกยกให้กับตน

ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์, โหนกระแส